
การแข่ง ซอร์บิง กลิ้งตัวในลูกบอลยักษ์ลงเขา
- J. Kanji
- 24 views
การแข่ง ซอร์บิง หรือ การกลิ้งตัวเอง อยู่ในลูกบอลยักษ์ใส ๆ เป็นกีฬาที่ฟังดูเหมือน เอาสมองไปฝากเนิน แต่กลับสนุกอย่างน่าแปลกใจ และฮิตจนแพร่กระจาย ไปหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะถิ่นต้นกำเนิด อย่างนิวซีแลนด์ ที่คนกลิ้งกันเป็นเรื่องเป็นราว บทความนี้จะพาไปเจาะลึก การแข่งซอร์บิง ให้มากขึ้น
ซอร์บิง (Zorbing) คือการที่คน เข้าไปอยู่ในลูกบอลพลาสติกใส ขนาดมหึมา แล้วกลิ้งลงเนิน หรือบางทีก็กลิ้งในสนามเรียบ ๆ หรือแม้แต่ในสระน้ำ จุดเริ่มต้นของกีฬานี้ มาจากปี 1994 โดยสองนักประดิษฐ์ ชาวนิวซีแลนด์ Andrew Akers และ Dwane van der Sluis
ที่คิดว่าการอยู่ในลูกบอล แล้วกลิ้งน่าจะเป็นอะไรที่น่าสนุกดี ลูกบอลที่ใช้เรียกว่า “Zorb” มีสองชั้น ชั้นนอกกับชั้นใน มีอากาศอยู่ตรงกลาง ช่วยซับแรงกระแทก ทำให้แม้จะกลิ้งแรงแค่ไหน คนข้างในก็ปลอดภัย แต่อาจหัวหมุนไปพักหนึ่ง
แนวคิดเบื้องหลัง มันคือความสนุก ผสมวิทยาศาสตร์ ใช้แรงโน้มถ่วง โมเมนตัม และแรงเสียดทานอย่างลงตัว ทำให้ได้ประสบการณ์สุดเหวี่ยง แต่ไม่เจ็บตัว [1]
ซอร์บิงไม่ได้มีแค่แบบเดียว มันมีหลากหลายสไตล์ให้เลือกลอง
คนเล่นต้องทำใจให้กล้าก่อนลง เพราะแค่มองลูกบอลกลิ้ง ก็เวียนหัวแล้ว แต่พอเข้าไปจริง ๆ กลับเป็นความรู้สึกที่ทั้งโล่ง ปั่นป่วน และขำตัวเองสุด ๆ ในเวลาเดียวกัน การเคลื่อนไหวภายในลูกบอล ขึ้นอยู่กับแบบที่เล่น บางแบบต้องเกาะให้แน่น บางแบบปล่อยตัวให้กลิ้งไปอย่างอิสระ
การแข่งซอร์บิงจะสนุกสุด ๆ เมื่อเล่นในสนาม ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ อย่างสนามที่ Rotorua ประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางหลัก ของวงการ Zorb ที่มีทั้งเนินยาว เนินคดเคี้ยว และแม้แต่รางซิกแซก ให้คนเล่นได้ทั้งกรี๊ดและกลิ้ง [3]
บางประเทศอย่างญี่ปุ่น สหรัฐฯ หรือแม้แต่ประเทศไทย ก็มีสนาม Zorb ให้ลองเหมือนกัน โดยหลายแห่งเพิ่มลูกเล่น เช่น การแข่งความเร็ว หรือกลิ้งเป็นทีม เพื่อให้ความฮายิ่งคูณสอง
ที่เมืองพัทยา และเขาใหญ่ เคยมีรีสอร์ตเปิดบริการแบบนี้ โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน ที่มีคนมาเที่ยวกันมาก สนามหลายแห่งก็จัดแพ็กเกจ พร้อมกิจกรรมผจญภัยอื่น ๆ เช่น ยิงธนู ยิงปืนเลเซอร์ หรือปีนหน้าผาจำลอง
แม้จะดูตลก แต่การแข่งซอร์บิง ก็มีข้อดีเหมือนกัน มันช่วยฝึกสมดุล ฝึกความกล้า และลดความเครียด ได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเสียงหัวเราะ ที่ออกมาระหว่าง หมุนไปหมุนมา มันเป็นเสียงหัวเราะจริงจัง ที่หลุดจากหัวใจ (และบางทีก็หลุด จากความงุนงง ว่าทำไม ถึงมายอมทำแบบนี้ได้)
ผู้เล่นหลายคนบอกว่า นี่คือกิจกรรมที่ทำให้ ลืมความกังวลไปชั่วขณะ เพราะในลูกบอลนั้น ไม่มีอะไรนอกจากความหมุน ความมัน และเสียงฮา เป็นการรีเซตสมองแบบสั้น ๆ ที่ช่วยให้ใจ กลับมาสดใส แบบไม่ต้องพึ่งกาแฟ
การเล่นซอร์บิง ไม่ต้องใช้ทักษะพิเศษ แต่ต้องมีใจพร้อม รับแรงเหวี่ยง และเสียงหัวเราะ ควรสวมเสื้อผ้าที่เบา แห้งง่าย และไม่ต้องกลัวเลอะ เพราะบางรอบจะเปียก ยิ่งกว่าเล่นสงกรานต์ซะอีก
ควรหลีกเลี่ยงหากมีปัญหา เรื่องเวียนหัว หรือเคยบาดเจ็บที่คอ หรือหลัง เพราะแม้จะปลอดภัย แต่แรงหมุนแรงเหวี่ยง อาจไม่เหมาะกับทุกคน สนามส่วนใหญ่ จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล และอุปกรณ์ซัพพอร์ต ให้ปลอดภัยตลอดการกลิ้ง
บางสนามมีข้อจำกัด เรื่องอายุ และน้ำหนัก เช่น ผู้เล่นต้องมีอายุอย่างน้อย 6 ปี และน้ำหนักไม่เกิน 100-120 กิโลกรัม เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
เหมือนกับ กีฬาแบกภรรยา วิ่งแข่ง หรือ แข่งอูฐ มอเตอร์สปอร์ต ที่เริ่มต้นจากไอเดียแปลก ๆ แล้วกลายเป็น กิจกรรมเฉพาะกลุ่ม การแข่งซอร์บิงก็เช่นกัน มันเริ่มจากความอยากเล่นสนุก แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นกิจกรรม Adventure ที่หลายคนอยากลองสักครั้งในชีวิต
Zorbing ยังใช้เป็นเครื่องมือท่องเที่ยว และส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น ในหลายประเทศ เพราะแค่เห็นลูกบอลยักษ์ กลิ้งบนเขา ก็เรียกรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ จากนักท่องเที่ยวได้ทันที
ปัจจุบันยังมีการแข่งขัน ระดับท้องถิ่น หรือกิจกรรมแนว Team Building ใช้ Zorb Ball เป็นหนึ่งในกิจกรรม เชิงสร้างสรรค์ เพื่อกระตุ้นการทำงานเป็นทีมอีกด้วย
การแข่ง ซอร์บิง คือกิจกรรมที่ทั้งฮา ทั้งเหวี่ยง ทั้งกลิ้งอย่างแท้จริง มันไม่ได้ต้องการ ความเก่งกล้า แต่ต้องการหัวใจ ที่พร้อมจะหมุนเล่น กับแรงโน้มถ่วง ใครที่กำลังมองหา ประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่จะทำให้หลุดขำ จนลืมความเครียด Zorbing อาจเป็นลูกบอลมหัศจรรย์ ที่กำลังมองหาอยู่ก็ได้
แล้วแต่คนเลย บางคนหัวหมุนเหมือนพายุ บางคนแค่ฮา แล้วอยากเล่นอีกรอบ สนามส่วนใหญ่ มีโซนพักหลังเล่นให้หายมึนด้วย ถ้าเล่นครั้งแรก แนะนำแบบ Hydro ที่มีน้ำช่วยลดแรงหมุน จะนุ่มนวลกว่าหน่อย
ได้ ถ้าอายุเกิน 6 ขวบ และมีผู้ปกครองดูแล อย่างใกล้ชิด สนามส่วนใหญ่ จะจำกัดส่วนสูง/น้ำหนัก เพื่อความปลอดภัย เด็ก ๆ มักจะชอบแบบ Water Zorbing ที่กลิ้งบนผิวน้ำมากกว่า เพราะควบคุมง่ายกว่า และไม่เวียนหัวมาก