
รีวิว ข้อมูล ปลาเชฟรอนแทงก์ | มีนิสัยที่ไม่ดุร้าย
- sun-31
- 29 views
ข้อมูล ปลาเชฟรอนแทงก์ (Chevron Tang) เป็นปลาทะเลสวยงามน่าเลี้ยง ที่อยู่ในสกุล Ctenochaetus เมื่อยังเล็กอยู่ จะมีลำตัวเป็นสีส้มสดใส และมีลายเป็นสีฟ้า แต่เมื่อโตขึ้น สีบนตัวมันจะเปลี่ยนไป เป็นสีดำปนน้ำตาล ตลอดทั้งตัวเลย ลูกปลาวัยอ่อนนิยม เลี้ยงเป็นปลาสวยงาม โดยบทบาทนี้ จะไปทำความรู้จักกับรูปร่าง ราคาขายของปลา ตามมาดูกันต่อได้เลย
ปลาเชฟรอนแทงก์ มีชื่อทางด้านวิทยาศาสตร์ ที่เรียกกันว่า Ctenochaetus hawaiiensis (J. E. Randall, 1955) เป็นปลาทะเลชนิดหนึ่งที่อยู่ในวงศ์ Acanthuridae ปลาชนิดนี้พบได้ในมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อน อีกทั้ง ได้รับการระบุ อย่างเป็นทางการครั้งแรก ในปี 1955
โดยนักมีนวิทยาชาวอเมริกัน ที่มีชื่อว่า John Ernest Randall โดยระบุตำแหน่งที่อาศัยในอ่าว Keauhou บนเกาะฮาวาย สำหรับสกุลของปลาอยู่ในสกุล Ctenochaetus และ Acanthurus ประกอบกันเป็นเผ่า Acanthurini ซึ่งเป็นหนึ่งในสามเผ่าในวงศ์ย่อย Acanthurinae ซึ่งเป็นหนึ่งในสองวงศ์ย่อย Acanthuridae อีกด้วย [1]
โดยทั่วไปแล้ว ราคาของปลาชนิดนี้ มีการขายซื้อขายในต่างประเทศ คาดการณ์ราคาขายปลา จะอยู่ราวประมาณ 9,731.80 ($ 289.90) บาทขึ้นไป [2] และหากใครอยากเลี้ยงแล้ว ทุกคนสามารถเข้าไปหาอ่าน ข้อมูลขั้นต้นได้ที่นี่ Chevron Tang SML
โดยปกติแล้วปลาชนิดนี้ จะไม่ก้าวร้าวต่อปลาชนิดอื่น และสามารถเลี้ยงร่วมกับ ปลาไมมิคแทงก์ มักจะรวมตัวกันเป็นฝูง ปลาที่โตเต็มวัยจะชอบน้ำที่ลึกกว่าซึ่งมีปะการังนิ้วมืออาศัยอยู่ และอาศัยอยู่เพียงลำพัง การดูแลปลาหมอทะเล ขนาดตู้ปลาขั้นต่ำ ที่แนะนำสำหรับปลาชนิดนี้ คืออย่างน้อย 135 แกลลอน พวกมันว่ายน้ำเก่ง และต้องการพื้นที่มาก
การเลี้ยงในตู้ปลาขนาดเล็ก น่าจะเหมาะกับมัน แต่ต้องใช้พื้นที่มากพอสมควร เพื่อให้สาหร่ายเติบโต และเก็บเกี่ยวเองได้ ปลาชนิดนี้ต้องการสาหร่าย ที่เติบโตตามธรรมชาติ และเศษซากที่สะสมอยู่ เป็นจำนวนมาก เพื่อตอบสนองความต้องการ ทางโภชนาการของปลาได้
โดยลักษณะของปลาชนิดนี้ ปลาที่โตเต็มวัยในระยะแรก จะมีสีสันสวยงามมาก โดยมีสีม่วงเข้ม ส้ม และแดง เมื่อเลี้ยงไว้ในตู้ปลาที่บ้าน ปลาที่โตเต็มวัย จะคงสีเดิมไว้ได้นานกว่าในธรรมชาติ มีหลายกรณีที่ปลาที่โตเต็มวัย จะคงสีเดิมไว้ได้นานกว่าสามปี
ในขณะที่ปลาที่โตเต็มวัย จะเปลี่ยนสีเป็นสีเดิม หลังจากผ่านไปหนึ่งปี เมื่อถึงระยะโตเต็มวัยแล้ว สีแดงและสีม่วงจะค่อยๆ จางลง และสีจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม จนเกือบดำ โดยด้านข้างลำตัว และหัวจะมีเส้นสีเทาอมเหลืองเล็กๆ จำนวนมากเป็นแนวนอน [3]
สรุป ปลาสายพันธุ์ เชฟรอนแทงก์ เมื่อยังเล็กจะมีสีสันสดใส แต่เมื่อโตขึ้นแล้ว จะเปลี่ยนเป็นสีดำทั้งตัว ทำให้ความต้องการปลาชนิดนี้ ถูกจำกัดอยู่แค่เพียงลูกปลาวัยอ่อน นอกจากนี้ พวกมันเป็นปลาที่ชอบกินตะไคร่น้ำ มักคอยเล็มตะไคร่ตามพื้นตู้ และกระจกเป็นอาหารเสริม และพวกมันไม่มีนิสัยดุร้าย สามารถเลี้ยงรวมกับปลาอื่นได้ดี
เนื่องจากเป็นปลามีขนาดเล็ก และเคลื่อนไหวร่างกายน้อย ผู้เลี้ยงจึงคิดว่าตู้ปลาขนาดเล็กน่า จะเหมาะกับมัน แต่ต้องใช้พื้นที่มากพอสมควร เพื่อให้สาหร่ายเติบโต และเก็บเกี่ยวเองได้ ปลาชนิดนี้ต้องการสาหร่าย ที่เติบโตตามธรรมชาติ และเศษซากที่สะสมอยู่มาก พวกมันจะต้องมีตู้ปลาขนาดใหญ่ ที่มีหินจำนวนมาก และจะได้รับประโยชน์มากขึ้น ด้วยการรวมทรายเข้าไปด้วย
โดยปลาชนิดนี้ใช้ฟันในการยก และร่อนหิน ทราย และพื้นผิวอื่นๆ หลายอย่าง และใช้ปากดูดสาหร่ายออก ในตู้ปลา ผู้เลี้ยงมักจะเห็นรอยริมฝีปากเล็กๆ บนกระจกที่เคยมีสาหร่ายอยู่ ปลาชนิดนี้ไวต่อแบคทีเรีย ที่เกิดจากสารอินทรีย์ที่สะสม ซึ่งทำให้คุณภาพน้ำลดลง ดังนั้น จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำเล็กน้อย เป็นประจำ