แหล่งรวมเกมส์ชั้นนำ คาสิโน บาคาร่า ไฮโล ครบพร้อมระบบล้ำทันสมัย รวดเร็วทันใจ

ตำนาน นกอลิกันโต (Alicanto) วิหคเรืองแสงแห่งอาตากามา

ตำนาน นกอลิกันโต

ตำนาน นกอลิกันโต (Alicanto) หรือ อะลิกันโต เป็นวิหคออกหากินยามราตรี แห่งทะเลทรายอาตากามา ซึ่งชาวชิลีเชื่อว่า ตัวมันจะเรืองแสงสีทอง เนื่องจากกินแร่มีค่าเป็นอาหาร ส่วนข้อมูลเพิ่มเติม ไปเจาะลึกประวัติศาสตร์ ด้านล่าง

ความหมายของคำว่า Alicanto คืออะไร

ตำนาน นกอลิกันโต ได้รับการเผยแพร่ จากการตีพิมพ์โดย Julio Vicuña Cifuentes ซึ่งเป็นนักเขียนนิทานพื้นบ้าน เมื่อประมาณปี ค.ศ. 1914-1915 ต่อมาพบคำที่คล้ายกัน ในเวอร์ชันอังกฤษในหนังสือ Book of Imaginary Beings (1 ใน 4 บทชื่อ Fauna of Chile) แปลโดยชาวอาร์เจนตินา ราวปี 1969 [1]

เรื่องเล่าอลิกันโต มีความเป็นมาอย่างไร

หนึ่งในเรื่องเล่าที่โด่งดังของอลิกันโต มาจากชายหนุ่มชื่อว่า Juan Godoy อ้างว่าเมื่อปี 1832 เขาเดินทางผ่านทะเลทรายอาตากามา แล้วพบเข้ากับนกตัวหนึ่ง ซึ่งนำทางเขาไปยังแหล่งแร่เงิน Chañarcillo และเมื่อเรื่องนี้ถูกเล่าออกไป ส่งผลให้เกิดเป็นปรากฏการณ์ “ตื่นทอง” ในประเทศชิลี

คนเชื่อว่า นกตัวนี้เป็นสัตว์นำโชคลาภมาให้ เนื่องจากอาหารของมันคือโลหะมีค่า เช่น แร่เงินหรือทองคำ ในนิทานพื้นบ้านมักเล่าว่า หากใครหลงป่า นกจะออกมาช่วยให้ปลอดภัย โดยใช้แสงจากปีกนำทาง แต่ในช่วงเวลาทั่วไป หากนกรู้ว่ามีคนคอยติดตาม มันจะทำให้หลงหรือปล่อยทิ้งไว้ กลางทะเลทราย

นอกจากนี้ นิทานอลิกันโตที่มีชื่อเสียง ยังสามารถอ่านได้จากหนังสือของ Julio Vicuña Cifuentes รวมไปถึงหนังสือดังอย่าง Book of Imaginary Beings ของชาวอาร์เจนตินาชื่อ Jorge Luis Borges อีกด้วย

ที่มา: Stories and Legends [2]

ต้นกำเนิดของนกอลิกันโต เกิดขึ้นที่ไหน

ตำนาน นกอลิกันโต

ต้นกำเนิดของนกตัวนี้ อยู่ในทะเลทรายชื่ออาตากามา (Atacama Desert) บริเวณตอนเหนือของชิลี ติดกับตะวันตกเฉียงใต้ของโบลิเวีย ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นทะเลทรายแห้งแล้งที่สุดของโลก มีพื้นที่ประมาณ 105,000 ตร. กม. สูงกว่าน้ำทะเล 4,000 เมตร

บริเวณนี้ประกอบด้วยแร่ธาตุต่างๆ อาทิเช่น ทองแดง, ทองคำ, เหล็ก, เงิน และเมื่อย้อนกลับไปล้านปีก่อน พื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นทะเลมาก่อน ส่วนปัจจุบันมีปริมาณฝนเพียงแค่ 15 มิลลิเมตรต่อปี มักถูกใช้เป็นโลเคชันถ่ายหนังเกี่ยวกับต่างดาว รวมถึงเป็นที่ทดสอบขององค์กรนาซ่า

ในทะเลทรายมีสถานที่ขึ้นชื่อ ยกตัวอย่างเช่น น้ำพุร้อนทาติโอ (Tatio) เป็นบ่อน้ำร้อน 80 จุด อุณหภูมิต่ำสุด 0 องศาเซลเซียส สูงสุด 85 องศาเซลเซียส ต่อมาคือหุบเขาพระจันทร์ ห่างจากเมืองเปโดรเดออาตามากา (Pedro de Atacama) ไปราวๆ 13 กม. เป็นต้น

ที่มา: Discover the Atacama Desert in Chile [3]

อำนาจของอลิกันโต มีอะไรบ้าง

ปีกของมันจะเรืองแสงเมื่อออกหากิน โดยจะมองเห็นเป็นสีเมทัลลิกหรือสีเงิน ในขณะที่ดวงตาจะมีแสง ทำให้มองเห็นทุกอย่างในความมืด มีพลังทั้งด้านดีและมอบโชคร้าย บางแหล่งข้อมูลกล่าวว่า มันเป็นนกที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์

ลักษณะของนกเรืองแสงแห่งชิลี เป็นยังไง

  • ขนสีเมทัลลิก หรือขึ้นอยู่กับแร่ที่กินเข้าไป
  • บ้างก็ว่าเป็นนกตัวใหญ่ บ้างก็ว่าเป็นนกตัวเล็ก
  • ศีรษะเหมือนกับหงส์ ขายาว ปีกกว้าง
  • จะงอยปากงอนชัดเจน และมีสีเขียว
  • ชอบอยู่ตัวเดียว วางไข่แค่ 2 ฟอง

ตำนานนกกินแร่ธาตุ ส่งผลต่อชิลียังไงบ้าง

ตำนาน นกอลิกันโต

จากตำนานของนกกินแร่ธาตุ เริ่มมีอิทธิพลมากขึ้น ในยุคอาณานิคมของสเปน กระทั่งในปี 1800 การทำเหมืองแร่เติบโตขึ้น และในปี 1900 ก็เริ่มมีตำนานนกเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยมักใช้อธิบายถึงโชคดี หรือเตือนถึงอันตราย [4] ส่วนเหมืองแร่ที่นกพา Godoy ไปเจอ มีข้อมูลดังนี้

  • ชื่อ : Chañarcillo
  • ที่ตั้ง : จังหวัดโกเปียโป ภูมิภาคอาตากามา ชิลี
  • ค้นพบ : เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 1832
  • 1860-1885 : ผลิตแร่เงินได้ 2.5 ล้านกิโลกรัม
  • 1870 : มีคนงานเหมืองจำนวน 1,570 คน
  • 1874-1888 : การทำเหมืองปิดตัวลง
  • ศตวรรษที่ 19 : เป็นพื้นที่ทำเหมือง ที่มีผลผลิตมากที่สุดในชิลี

สรุป ตำนาน นกอลิกันโต

ตำนานของนกอลิกันโต หรือนกเรืองแสงแห่งอาตามากา นอกจากจะเป็นมรดกเรื่องเล่า ยังถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่ทำให้ประเทศชิลีเกิดการเปลี่ยนแปลง จากนิทานสู่ยุคตื่นทอง จนกลายมาเป็น 1 ในชาติ ที่มีแร่ธาตุอุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก

บริเวณที่นกพาไปเจอ มีแร่ชนิดไหนบ้าง

ยกตัวอย่าง บริเวณที่มีออกไซด์ เช่น แร่เงินดั้งเดิม (native silver), อาร์เจนไทต์ (Argentite), คลอราไจไรต์ (Chlorargyrite), โบรไมไรต์ (Bromargyrite), โพลีเบไซต์ (Polybasite), ไอโอไดไรต์ (Iodargyrite)

ส่วนบริเวณที่มีปริมาณซัลไฟด์เข้มข้น เช่น พรูสไทต์ (Proustite), ไพราไจไรต์ (Pyrargyrite) อีกทั้งยังมีการพบผลึกแร่ขนาดใหญ่อย่างสเตฟาไนต์ (Stephanite), อะดาไมต์ (Adamite), พรูสไทต์ (Proustite) อีกด้วย

สัญลักษณ์อลิกันโต หมายถึงอะไร

วรรณกรรมเรื่อง The Color Purple เขียนโดยอลิซ วอล์กเกอร์ ใช้นกสื่อถึงความหวัง อิสรภาพ และตัวแทนของนักเดินทาง ปีกของมันแสดงถึงความสวยงาม หรือจิตวิญญาณของมนุษย์ที่ยืดหยุ่น หรืออ่านรายละเอียด เนื้อหาย่อ รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ได้ที่ เลือดสีม่วง : The Color Purple

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง