รายชื่อ นกในตำนาน เมโสโปเตเมีย ดินแดนระหว่างแม่น้ำ
- Jynx
- 33 views
รายชื่อ นกในตำนาน เมโสโปเตเมีย เป็นอดีตภูมิภาคโบราณ ปัจจุบันคือประเทศอิรักและซีเรีย ถือกำเนิดเมื่อราว 3,500 ปีก่อนคริสตกาล โดยมีการเล่าถึงวิหคหลายตำนาน ทั้งนกสองหัว รวมถึงเทพครึ่งนก ซึ่งมีใครกันบ้าง ไปดูกัน
คำว่าเมโสโปเตเมีย มาจากภาษากรีก 2 คำ คือ Mesos แปลเป็นอังกฤษว่า Middle อีกคำคือ Potamos แปลเป็นอังกฤษว่า River นำมารวมกันจึงมีความหมายว่า ดินแดนหรือพื้นที่ระหว่างแม่น้ำ 2 สาย ได้แก่ แม่น้ำไทกริสและแม่น้ำยูเฟรติส
เมื่อประมาณ 4,000 ปีก่อน มนุษย์เริ่มใช้โลหะทองแดง ต่อมาอีกประมาณ 3,600 ถึง 2,800 ปีก่อน หรือยุคอูรุก ถือกำเนิดการบูชาเทพเจ้าอาทิตย์ และเทพเจ้าอินันทา [1] โดยกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ เช่น
ตำนานเมโสโปเตเมีย คือ ความเชื่อและเรื่องเล่า โดยชาวเมโสโปเตเมียโบราณ ซึ่งเชื่อว่าเทพเจ้า มีบทบาทในโลกนี้ ซึ่งแหล่งที่มาของตำนานต่างๆ รวมถึง นกในตำนาน เมโสโปเตเมีย อาจมาจาก เช่น
ที่มา: What Is Mesopotamian Mythology?, Mesopotamian Mythology Sources [2]
สิ่งมีชีวิตลูกผสมระหว่างนก งู และสิงโต มีชื่อว่ามุศมหัทธนะ (Mušmaḫḫū) แปลว่า งูศักดิ์สิทธิ์ แต่บางครั้งถูกพรรณนาว่า เป็นงู 7 หัว ที่เทพเจ้านินูร์ตาเป็นผู้สังหาร ซึ่งตำนานสุเมเรียน มันเป็นหนึ่งในงูเขา 3 ตัว มีต้นกำเนิดร่วมกับบาสมู (Bašmu) และอุซุมกัลลู (Ušumgallu) โดยมีเรื่องเล่า 2 เวอร์ชัน คือ
ที่มา: Mušmaḫḫū [3]
นกผู้ขโมยแผ่นจารึกโชคชะตา เขาเป็นเทพเจ้าครึ่งวิหค บ้างก็เรียกว่าดิซู บ้างก็ชื่ออิมดูกูด ถือกำเนิดจากน้ำบริสุทธิ์ หายใจเป็นไฟและน้ำ ขนเปลี่ยนสีได้ตามแสงสว่าง หน้าตาเหมือนอินทรี ขโมยแผ่นจารึก ก่อนจะถูกเทพนินูร์ตาสังหาร หรือเจาะลึกเพิ่มเติมได้ที่ เทพนกอันซู คือใคร
นกผสมวัว สิงโต และมนุษย์ ถูกเล่าถึงโดยชาวอัสซีเรีย มีชื่อว่าลามาสซู (Lamassu) เดิมทีเล่าถึงว่าเป็นเทพีชื่อลัมมา แต่การพรรณนาเปลี่ยนมาเป็น ลูกครึ่งสิ่งมีชีวิต 4 สายเลือด มีศีรษะเป็นคน ลำตัววัวหรือสิงโต และปีกนก เป็นเทพผู้คุ้มครองอัสซีเรีย
ต่อมาชาวอัคคาเดียน เชื่อมโยงลามาสซูกับเทพปัฟซุกกัล และเทพนกอันซู โดยมีบันทึกกล่าวถึงเมื่อ 3,000 ปีก่อน โดยชาวอาณาจักรเอบลา มักพบในรูปแบบประติมากรรม บริเวณราชวัง เช่น
โดยรูปปั้นหลายชิ้น ถูกทำลายเมื่อทศวรรษปี 2010 โดยกลุ่ม Islamic State หลังจากเข้ายึดครอง
1 ใน 11 สัตว์ประหลาดมีปีกที่เทียแมตสร้างขึ้น คือสัตว์ร้ายแห่งลมฟ้าอากาศ อูกัลลู (Ugallu) มีหัวเป็นราชสีห์ สร้างขึ้นมาเพื่อให้ทำลายโลก แต่ทั้งสิบเอ็ดตัวถูกกำราบ โดยเทพเจ้ามาร์ดุก โดยจับมัดไว้ แล้วเลี้ยงพวกมันด้วยศพของศัตรู
หลังจากนั้น ทั้งสิบเอ็ดตัวเปลี่ยนเป็น สิ่งมีชีวิตที่คอยปกป้องชาวบาบิลอน และเท้าของอูกัลลูเปลี่ยนเป็น กรงเล็บนกอินทรี แล้วถูกเรียกด้วยชื่ออุลดามาร เชื่อว่าหากสวมเครื่องรางอูกัลลู จะปลอดภัยจากทุกสิ่ง
ส่งผลให้ลัทธิอูกัลลู เป็นที่นิยมในยุคนั้น มีการจัดพิธีกรรมเพื่อบูชาในยามราตรี แต่หากมันปรากฏตัวในตอนกลางวัน จะถูกเรียกอีกชื่อว่า day demon หรือปีศาจกลางวัน [4] บางตำนานเล่าว่า หากมันถูกเรียกออกมา ใบหน้าจะเปลี่ยนจากหญิงเป็นชาย พร้อมผมยาวสีขาว
โดยสรุปแล้ว รายชื่อนกในตำนานเมโสโปเตเมีย ที่เล่าต่อกันมาจากคน 4 กลุ่ม ซึ่งมีความเชื่อเรื่องเทพเจ้า ส่วนใหญ่เป็นนกประหลาด ที่มีลักษณะร่วมของทั้งมนุษย์และสัตว์สี่ขา บางตัวก็อยู่ในฐานะผู้ปกป้อง บางตัวก็ได้ฉายาว่าปีศาจ และแปรพักตร์จากร้ายเป็นดี
ต้นกำเนิด อินทรีสองหัว มาจากอารยธรรมร่วมของ 3 แหล่ง ได้แก่ เมโสโปเตเมีย, กรีกไมซีนี, ชาวฮิตไทต์ เล่าถึงในลักษณะคล้ายกับอีกาของโอดิน ถูกใช้งานมาตั้งแต่ยุคสำริด ยุคกลาง จนมาถึงยุคใหม่ พบได้ทั้งบนธงชาติ อาทิเช่น ธงชาติเซอร์เบีย, ธงชาติมอนเตเนโกร เป็นต้น
สิ่งมีชีวิตที่มีขาคล้ายกรงเล็บอินทรี มีอยู่ในตำนานเมโสโปเตเมีย เรียกด้วยชื่อมูชูชู (Mušḫuššu) เป็นสัตว์มีเกล็ด ขาหลังเหมือนกรงเล็บของอินทรี ขาหน้าเหมือนสิงโต คอและหางยาว มี 2 เขา ลิ้นเหมือนงู มีหงอน และปีกเล็กๆ กลางหลัง
