
นิทาน หมาป่าแห่งกุบบิโอ (Wolf of Gubbio) โดยชาวอิตาลี
- Jynx
- 14 views
นิทาน หมาป่าแห่งกุบบิโอ (Wolf of Gubbio) เล่าต่อกันมาโดยชาวอิตาลี มันเป็นหมาป่าดุร้าย ไม่มีชื่อเรียก จึงเรียกตามชื่อเมือง ล่ามนุษย์เป็นเหยื่อ จนกระทั่งนักบุญคนหนึ่งมาถึง ซึ่งเรื่องราวจะเป็นยังไง อ่านต่อด้านล่าง
นิทาน หมาป่าแห่งกุบบิโอ เริ่มขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1220 ไปจนถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 13 เมื่อเมืองกุบบิโอ ในอุมเบรีย ประเทศอิตาลี ต้องหวาดกลัวหมาป่า ซึ่งได้โจมตีทั้งสัตว์เลี้ยง ก่อนจะเริ่มล่าชาวเมืองเป็นอาหาร ต่อมาพวกเขาได้รับความช่วยเหลือ จากนักบุญที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้อุปถัมภ์สัตว์
เรื่องราวหมาป่า ล่าชาวเมืองกุบบิโอ มันคอยอยู่นอกประตูเมือง หากใครออกไปตามลำพัง หรือออกไปโดยไม่มีอาวุธ ก็จะถูกจับกิน ส่งผลให้ทั้งเมืองเหมือนถูกปิด จนกระทั่งบาทหลวงฟรานซิสรับรู้ จึงประกาศว่า จะมาเพื่อพบหมาป่า ถึงแม้เขาได้รับคำเตือนมากมาย
เมื่อมาถึงเมือง เขาทำสัญลักษณ์ไม้กางเกง แล้วเดินออกไปนอกประตู เมื่อหมาป่าเห็นฟรานซิส มันกระโจนเข้าหาเขา พร้อมปากที่อ้ากว้าง แต่ฟรานซิสสั่งให้หมาป่าหยุด ซึ่งมันเชื่องและหมอบลงที่เท้าของเขา แล้วเอาหัววางไว้บนมือ
หมาป่ายอมจำนนต่อฟรานซิส และได้ทำสัญญาต่อกัน โดยมันวางอุ้งเท้าข้างหนึ่งไว้ในมือเขา แล้วพากลับไปที่เมือง ต่อมาเขาเทศนาให้ชาวเมืองฟัง และให้สัญญากับหมาป่าว่า ชาวเมืองกุบบิโอต้องให้อาหารมัน จนเวลาผ่านไป เมื่อหมาป่าตาย มันกลายเป็นสัญลักษณ์ความศักดิ์สิทธิ์
ที่มา: Wolf of Gubbio [1]
เมืองที่เกิดเรื่องหมาป่า คือ เมืองกุบบิโอ เป็นพื้นที่ทางเหนือของอุมเบรีย ไม่ไกลจากเมืองเปรูจา ก่อตั้งย้อนกลับไปจนถึงศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาล หลังจากจักรวรรดิโรมันล่มสลาย เมืองแห่งนี้อยู่ภายใต้ การปกครองของตระกูลดามอนเตเฟลโตร ซึ่งปัจจุบันมีสถานที่โดดเด่น อาทิเช่น
ที่มา: A Hidden Umbrian Treasure [2]
ตำนานเล่าว่า ชาวเมืองฝังหมาป่า โดยให้เกียรติต่อร่างของมัน ต่อมาบริเวณดังกล่าว กลายเป็นที่ตั้งของโบสถ์เซนต์ฟรานซิส และในระหว่างบูรณะเมื่อปี 1872 มีการค้นพบโครงกระดูกหมาป่า และยังเล่าอีกว่า ที่ตั้งของโบสถ์วิกตอรินา คือจุดที่ฟรานซิส พบกับหมาป่าครั้งแรก
นักบุญที่กำราบหมาป่า เป็นนักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซี เขาเกิดในปี 1181 หรือ 1182 และกลายเป็นนักบุญในวันที่ 16 กรกฎาคม 1228 และถูกยกย่องว่า เป็นนักบุญผู้อุปถัมภ์สัตว์ นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ก่อตั้งคณะฟรังซิสกัน (Franciscan Order) คณะกลาริส (Order of Poor Clares) และคณะฟรัสซิสกันชั้นสาม (Third Order of Saint Francis)
กระทั่งวันที่ 3 ตุลาคม 1226 เขาเสียชีวิตลง ทำให้ทุกวันที่ 4 ตุลาคมของทุกปี กลายเป็นวันฉลองนักบุญฟรังซิส โดยมีพิธีอวยพรสัตว์ [3] หลังจากนั้นในปี 2013 ท่านถูกสถาปนาให้กลายเป็น สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส โดยมี 7 ช่วงเวลาสำคัญในชีวิต ดังนี้
ปัจจุบันของนักบุญและหมาป่า สามารถเที่ยวชมได้ที่ โบสถ์ซานตามาเรีย เดลลา วิตตอเรีย (Chiesa di Santa Maria della Vittoria) ซึ่งมีรูปปั้นตั้งอยู่ โดยโบสถ์แห่งนี้สร้างในศตวรรษที่ 9 เพื่อรำลึกถึงการชนะสงคราม ของชาวยูกูบิเนีย
ก่อนจะได้รับการซ่อมแซมครั้งใหญ่ ในศตวรรษที่ 16-17 โดยภายในบริเวณโบสถ์ ระหว่างเส้นทางแสวงบุญ Via di Francesco จะพบกับภาพวาดของนักบุญและหมาป่า [4] สามารถคลิกดูรายละเอียดการเดินทางได้ที่ rome.info (How to Get There)
บทส่งท้าย นิทานหมาป่าแห่งกุบบิโอ สัตว์ร้ายหมายเอาชีวิต ทั้งปศุสัตว์และผู้คน ซึ่งสร้างความอกสั่นขวัญผวา อยู่นอกประตูเมือง จนนักบุญคนหนึ่ง ที่เชื่อว่าสื่อสารกับสัตว์ได้มาเยือน นิทานเรื่องนี้ก็จบลง
ในปี 1913 นักกวีชาวนิการากัวชื่อว่า รูเบน ดาริโอ (Rubén Darío) ได้ตีพิมพ์หนังสือชื่อเรื่อง เหตุผลของหมาป่า (Los motivos del lobo) ซึ่งมีเนื้อหาบิดเบือน ทำให้ผู้ได้อ่าน โดยเฉพาะชาวเมือง เริ่มล้อเลียนและกลับมาทำร้ายหมาป่า จนทำให้มันกลายเป็นสัตว์ดุร้ายเหมือนเดิม
นักบุญและหมาป่าในสมัยใหม่ ไม่ได้มีภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องชัดเจน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวของฟรานซิส ยกตัวอย่างเช่น หนังเรื่อง Francis of Assisi (1961) ที่สร้างโดยไมเคิล เคอร์ติซ ส่วนนิทานการ์ตูน ความยาว 8.42 นาที สามารถรับชมได้ที่ Youtube : Christian Family TV