
เรื่องราว นกเปียซ่า (Piasa) สัตว์ปีกแห่งแม่น้ำมิสซิสซิปปี
- Jynx
- 42 views
เรื่องราว นกเปียซ่า (Piasa) เป็นสัตว์แปลกคล้ายวิหค หรือมังกร ที่เล่าขานโดยชนพื้นเมืองอเมริกัน ในแถบแม่น้ำมิสซิสซิปปี ว่ากันว่ามันโหดร้ายและอันตราย หน้าตาคล้ายกับ “ไคเมร่า” แห่งกรีก ส่วนข้อมูลเพิ่มเติม ไปเจาะลึกประวัติศาสตร์ ด้านล่าง
คำว่าเปียซ่าออกเสียงรูปแบบ “pie-uh-saw” ซึ่งตั้งมาจากภาษา Illinowek ของชาวอัลกองควิน มีความหมายว่า “นกที่กินคน” นอกจากนี้ชื่อดังกล่าว ยังอ่านแบบทับศัพท์ และตั้งให้กับรัฐอิลลินอยส์ (Illinois) ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของนกเปียซ่าอีกด้วย
ตำนานนกเปียซ่า ถูกเล่าถึงโดย 11 เผ่าดั้งเดิม โดยเฉพาะเผ่า Illini ซึ่งตั้งถิ่นฐานในหุบเขามิสซิสซิปปี แต่นกชนิดนี้ถูกเรียกว่า Storm Bird หรือนกพายุ เล่ากันว่า มีสัตว์ตัวเดียวที่อยู่บนโลก นั่นคือนกพายุ ซึ่งอาศัยอยู่ในถ้ำใกล้แม่น้ำ โดยจะออกล่าควายด้วยกรงเล็บแหลม
จากนั้นมีมนุษย์กลุ่มหนึ่งมาเยือน แต่นักรบคนหนึ่งถูกนกพายุจับตัวไป และต่อมานกก็กลายเป็นภัยต่อชนเผ่า มันมีเสียงคำราม เสียงกระพือปีก ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่ากำลังจะออกล่า ในขณะที่หัวหน้าเผ่าชื่อ ออร์เตกา (Ortega) ค้นหาวิธีสังหารสัตว์ดังกล่าว
เมื่อเขากลับมาจากการคิดหาวิธีฆ่า จึงสั่งให้คนในเผ่าซ่อนตัวในกระโจม (วิกแวม) ก่อนจะส่งนักรบไปซ่อนในพุ่มไม้ตรงข้ามถ้ำ ส่วนตัวเขายืนอยู่กลางแจ้งเฉยๆ เมื่อนกมองเห็นจึงพุ่งเข้าใส่ แต่ถูกลูกศรไฟของนักรบยิงใส่ และทำให้มันตายในที่สุด
ที่มา: The Legend of the Piasa-Bird [1]
คนแรกที่ค้นพบ ตำนานของนกเปียซ่า มีชื่อว่า Jacques Marquette เขาพบกับภาพบนหน้าผาเมื่อปี ค.ศ. 1673 ในขณะที่ออกสำรวจ จนกระทั่งในปี 1682 มีการรวบรวมแผนที่มิสซิสซิปปี จากคำบอกเล่าของ Louis Jolliet ซึ่งออกสำรวจร่วมกับบาทหลวงโจเซฟ ซึ่งอธิบายว่า สัตว์ชนิดนี้ไม่มีลักษณะของนก
ถัดมาในช่วงยุคหลัง มีนักสำรวจจากฝรั่งเศสหลายคน ไม่ว่าจะเป็น St. Cosme เขียนรายงานในปี 1699 ว่าภาพที่ค้นพบมีรอยสึกหรอจำนวนมาก โดยเกิดจากพฤติกรรมของชาวอินเดียน ที่มักยิงอาวุธใส่ขณะเดินผ่าน และเมื่อปี 1838 มีหนังสือเรื่อง Illinois and the West เรียกภาพวาดด้วยชื่อ Piasua
แต่ถูกเรียกว่าเปียซ่าครั้งแรก ในบทความ The Tradition of The Piasa เมื่อปี 1836 โดยนักเขียน John Russell ซึ่งเขากล่าวว่าที่มาของชื่อ มาจากแม่น้ำที่อยู่ใกล้ ก่อนที่ในปี 1912 เขาจะเปิดเผยว่า สัตว์ในภาพวาดเป็นนกตัวใหญ่ โจมตีและกินมนุษย์ แล้วภาพถูกวาดขึ้น เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ ของหัวหน้าเผ่าออร์เตกา
ที่มา: Discovery, John Russell account [2]
ตามคำบอกเล่าของบาทหลวงโจเซฟ ระบุว่า นกตัวนี้มีขนาดเท่ากับลูกวัว บนหัวมีเขาเหมือนกวาง ดวงตาสีแดง มีเคราเหมือนเสือ และใบหน้าคล้ายมนุษย์ ส่วนร่างกายเต็มไปด้วยเกล็ดสีเขียว แดง และดำ มีหางที่ยาวมาก จนสามารถพาดผ่านลำตัวไปจนถึงหว่างขา
ความเกี่ยวข้องของนกเปียซ่ากับมังกร เกิดขึ้นจากการที่ศาสตราจารย์ด้านภาษา พ่วงด้วยตำแหน่งประธานของ Japan Petrograph Society ชื่อว่า โนบุฮิโระ โยชิดะ (Nobuhiro Yoshida) ได้นำภาพนกมาเปรียบเทียบ กับมังกรญี่ปุ่นโบราณ และสิ่งที่พบ คือ
นอกจากนี้ ทั้งสองยังเป็นตัวแทนพายุ แต่ในเรื่องของความเชื่อ นกเปียซ่าขึ้นชื่อว่าอันตราย กินเนื้อคนเป็นอาหาร ส่วนมังกรของชาวญี่ปุ่น เป็นสัตว์ในการประกอบพิธีกรรม และการสวดมนต์ต่างๆ
ที่มา: Was The Piasa-Bird Related To Ancient Japanese Dragons? [3]
อาทิเช่น
เรื่องราวนกกินคน แห่งรัฐอิลลินอยส์ ที่บางคนก็บอกว่า ไม่ใช่สัตว์ปีก มีทั้งเขาบนหัว ตัวคล้ายกับมังกร หรือแม้กระทั่งมีหน้าเป็นคน ซึ่งถูกค้นพบหลักฐานยืนยัน ว่ามีจริงโดยบาทหลวง เมื่อปี 1673 โดยปัจจุบัน สามารถไปเยี่ยมชมได้ที่ รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา
ภาพศิลปะนกเปียซ่าบนหน้าผา อยู่ในสวนสาธารณะชื่อเดียวกัน ตั้งอยู่บนถนนหมายเลข 100 สายแม่น้ำใหญ่ ทางเหนือของเมืองอัลตัน ห่างจากสวนสนุก Riverview Park ราวๆ 2.4 กม. ใช้เวลาเดินประมาณ 30 นาที สามารถเข้าชมได้ฟรี หรือศึกษาเส้นทางเพิ่มเติมได้บน Google Map
ปัจจุบันนกตัวนี้ ถูกนำมาใช้เป็นมาสคอตให้กับ Southwestern High School (SWHS) หนึ่งในสถานศึกษาเกรด 9-12 ในรัฐอิลลินอยส์ โดยใช้รูปสลักโลหะทาสีของนกเปียซ่า สำหรับกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็น โลโก้ทีมบาสเกตบอล หรือป้ายตั้งโชว์ข้างสนามฟุตบอล