
โบะทาโอชิ เกมล้มเสา แบบรวมพลังของญี่ปุ่น
- J. Kanji
- 33 views
โบะทาโอชิ เกมล้มเสา คือกีฬาสุดบ้าระห่ำ จากประเทศญี่ปุ่น ที่ใช้ผู้เล่นถึง 150 คนต่อทีม แบ่งเป็นฝ่ายรุก และฝ่ายรับ เป้าหมายเดียวของเกมนี้คือ “ล้มเสาไม้” ของฝ่ายตรงข้ามให้ได้ มันทั้งสนุก ทั้งวุ่นวาย แต่แฝงด้วยความมีระเบียบวินัย และจิตวิญญาณ ของความร่วมมือ แบบญี่ปุ่นแท้ ๆ
เกมนี้ถือกำเนิดขึ้นที่ National Defense Academy of Japan หรือโรงเรียนเตรียมทหาร ของญี่ปุ่น เริ่มมีขึ้นราวช่วงกลาง ศตวรรษที่ 20 เป็นส่วนหนึ่ง ของพิธีต้อนรับนักเรียนใหม่ และกลายเป็นประเพณีประจำปี ที่มีความสำคัญ ต่อการสร้างจิตวิญญาณ ของนักเรียนนายร้อย
โบะทาโอชิไม่ได้ถูกสร้างมา เพื่อความสนุกเท่านั้น แต่เป็นการฝึกฝน ให้ผู้เล่นเรียนรู้ ความมีวินัย ความสามัคคี และการทำงานร่วมกัน ภายใต้แรงกดดัน เหมือนจำลองสนามรบ ให้เหล่านักเรียน รู้จักเสียสละเพื่อส่วนรวม ตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรียน [1]
แต่ละทีม ประกอบด้วยผู้เล่น 150 คน แบ่งเป็น 75 คนฝ่ายรุก และ 75 คนฝ่ายรับ เสาไม้สูงราว 3.5 – 4 เมตรจะถูกปักกลางสนาม ของแต่ละฝ่าย ทีมรุกต้องพยายาม ทำให้เสาของฝั่งตรงข้าม เอียงเกิน 30 องศา ในขณะที่ทีมรับ ต้องปกป้องไม่ให้เสาเอียง หรือล้ม
ทีมรับจะจัดผู้เล่น เป็นชั้น ๆ รอบเสา โดยมีตำแหน่งสำคัญคือ “นินจายอดเสา” ที่เกาะหรือยืนอยู่บนยอดเสา เพื่อรักษาสมดุล และป้องกันการถูกโยก ในขณะที่ฝ่ายรุก จะใช้กลยุทธ์ แบบคลื่นมนุษย์ วิ่งพุ่งเข้าใส่ ใช้การปีนตัวขึ้น เพื่อดึงหรือกดเสา ให้เอียงให้ได้
นอกจากนี้ ยังมีการจัดตำแหน่งผู้เล่น เช่น แนวต้านหน้า แนวกลางสนับสนุน และแนวปีน ทุกบทบาท ต้องทำหน้าที่เฉพาะ เพื่อให้การบุก หรือต้านทาน มีประสิทธิภาพสูงสุด [2]
แม้จะดูเหมือนความโกลาหล แต่แท้จริงแล้ว โบะทาโอชิเต็มไปด้วย การฝึกฝน และวางแผน ที่ซับซ้อนมาก ผู้เล่นแต่ละคน ต้องรู้หน้าที่ตัวเองเป๊ะ ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวเปิดเกม ตัวรับแรงปะทะ ตัวค้ำ ตัวช่วยปีน หรือแม้กระทั่ง ตัวล่อให้ฝั่งตรงข้ามหลงกล
การซ้อมจะกินเวลา หลายสัปดาห์ก่อนแข่งจริง โดยจะฝึกทั้งการเคลื่อนพล การบุกจู่โจมแบบกองกำลัง และการสื่อสารระหว่างทีม เพื่อให้ทุกคน สามารถเคลื่อนที่ และตัดสินใจพร้อมกัน แบบไร้ที่ติ ใครพลาดเพียงเสี้ยววินาที อาจทำให้เสาล้ม ก่อนเวลาอันควร
ความเข้มข้น และความยากของการฝึกนี้ ทำให้นึกถึง กีฬาคนวิ่งแข่ง กับม้า ในระยะไกลกว่า 35 กิโลเมตร บนเส้นทางภูเขา ในประเทศเวลส์ กีฬานั้นท้าทาย พลังร่างกายอย่างโดดเด่น ในขณะที่โบะทาโอชิ ท้าทายทั้งร่างกาย และการประสานทีม แต่ทั้งสองต่างก็สะท้อนสิ่งเดียวกัน นั่นก็คือความมุ่งมั่น
แม้จะดูดุดัน และอันตราย แต่โบะทาโอชิ ยังคงถูกจัดขึ้นทุกปี เพราะมันไม่ใช่แค่เกม แต่มันคือพิธีกรรม ที่มีความหมายลึกซึ้ง ต่อวัฒนธรรมการฝึกทหารญี่ปุ่น มันเป็นเหมือนบททดสอบใหญ่ ที่ใช้ทั้งร่างกาย และจิตใจ เพื่อปลูกฝังคุณค่า แบบทหารอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น ความมีระเบียบวินัย ที่เคร่งครัด
ความเสียสละ เพื่อส่วนรวม การร่วมแรงร่วมใจ ในการทำภารกิจ ที่หนักหน่วง และความอดทน ต่อแรงกดดันที่ถาโถมเข้ามา ทั้งจากสภาพแวดล้อม และจากตัวเกมเอง กิจกรรมนี้ ยังเปรียบเสมือนเวที ที่ทำให้นักเรียนนายร้อย ต้องเผชิญกับความท้าทาย เหมือนอยู่ในสถานการณ์วิกฤติ
พวกเขาต้องแสดงให้เห็นว่า แม้จะเจ็บปวด หรือเหนื่อยล้าเพียงใด ก็ยังต้องยืนหยัด อยู่ในหน้าที่ รู้จักพึ่งพา และประสานงานกับผู้อื่น เพื่อเป้าหมายของทีม เป็นการหล่อหลอม ให้พวกเขากลายเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง และเป็นกำลังสำคัญ ของกองทัพในอนาคต ทั้งในสนามฝึก และในชีวิตจริง
การแข่งขันโบะทาโอชิ จะจัดขึ้นเฉพาะที่ โรงเรียนเตรียมทหารแห่งชาติ ในหลายเมือง ของประเทศญี่ปุ่น ตัวอย่างเช่น โรงเรียน Kaisei Gakuen โดยจัดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ของทุกปี
แม้จะไม่เปิดให้คนนอก เข้าร่วมแข่งขัน แต่ประชาชนทั่วไป สามารถเข้าชมได้ และในปัจจุบัน ยังสามารถหาชมคลิป ย้อนหลังจาก YouTube หรือโซเชียลมีเดีย ที่เต็มไปด้วยภาพการพุ่งชน เสียงโห่ร้อง และพลังระเบิดของมนุษย์ ที่บ้าคลั่ง แต่มีเป้าหมายเดียวกัน [3]
แน่นอนว่าเมื่อมีคน 150 คนเข้าปะทะกัน แบบไม่มีเซฟ ย่อมมีโอกาสบาดเจ็บ ตั้งแต่รอยฟกช้ำ ไปจนถึงกระดูกหัก แต่ทางโรงเรียน ได้จัดระบบความปลอดภัย ไว้ล่วงหน้า เช่น
พูดได้ว่าแม้โบะทาโอชิ จะดูเป็นกีฬาที่ดิบเถื่อน ในสายตาคนนอก แต่ความจริง คือมันถูกจัดการอย่างเป็นระบบ มีแผนความปลอดภัย ในระดับสูง และอยู่ภายใต้การควบคุม ที่จริงจัง และมีความรับผิดชอบ ทั้งเพื่อรักษาชีวิต และสุขภาพของนักเรียน ผู้เข้าแข่งขัน
โบะทาโอชิ เกมล้มเสา อาจดูเหมือนภาพ ของความวุ่นวาย แต่ในความโกลาหลนั้น คือบทเรียน เรื่องความสามัคคี การเสียสละ และความเป็นผู้นำในหมู่คณะ นี่ไม่ใช่แค่เกม แต่คือเวทีฝึกทหาร ผ่านการแข่งขัน มันคือตัวแทน ของจิตวิญญาณแบบญี่ปุ่น ที่แสดงออกผ่านเหงื่อ เสียงตะโกน และแรงปะทะ อันหนักหน่วง
เกมนี้จัดเฉพาะ ในโรงเรียนเตรียมทหาร ของญี่ปุ่น ยังไม่มีเวอร์ชัน สำหรับประชาชนทั่วไป เนื่องจากต้องใช้คนเยอะ และควบคุมความปลอดภัย ที่สูงมาก
ส่วนใหญ่ผู้เล่นเป็นชาย เนื่องจากเป็นโรงเรียน ทหารชายล้วน แต่ไม่มีข้อห้ามแน่ชัดว่า ผู้หญิงห้ามเล่น เพียงแต่ยังไม่มีเวที ที่ผู้หญิงมีส่วนร่วมจริง ๆ